ทองคำ
มนุษย์ รู้จักทองคำมาตั้งแต่ประมาณ 5,000 ปี เป็นความหมายแห่งความมั่งคั่ง มีสัญลักษณ์ทางเคมีคือ Au จุดหลอมเหลว 1064และจุดเดือด 2970 องศาเซลเซียส เป็นโลหะที่มีค่าที่มีความเหนียว(Ductility)และความสามารถในการขึ้น รูป(Malleability)คือจะยืดขยาย(Extend)เมื่อถูกตีหรือรีดในทุกทิศทางโดยไม่ เกิดการปริแตกสูงสุดกล่าวคือทองคำบริสุทธิ์หนัก1ออนซ์สามารถดึงเป็นเส้นลวด ยาวได้ถึง80กิโลเมตรถ้าตีเป็นแผ่นก็จะได้บางเกินกว่า1/300,000นิ้วส่วนความ กว้างจะได้ถึง9ตารางเมตรและทองคำบริสุทธิ์จะไม่ทำปฏิกิริยาทาง เคมี(Chemicalinactive)ได้ง่ายจึงทนต่อการผุกร่อนและไม่เกิดสนิมกับ อากาศ(Oxidide)คุณสมบัติเหล่านี้ประกอบกับลักษณะภายนอกที่เป็นประกายจึงทำ ให้ทองคำเป็นที่หมายปองของมนุษย์มาเป็นเวลาพันๆปีโดยนำมาตีมูลค่าสำหรับการ แลกเปลี่ยนระหว่างประเทศและใช้เป็นวัตถุดิบที่สำคัญสำหรับวงการเครื่อง ประดับจนเมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้าไปข้างหน้ามากขึ้นทองคำได้ถูกนำไปใช้ให้เป็น ประโยชน์ในชีวิตประจำวันหลากหลายมากขึ้นอาทิเช่นวงการแพทย์ ทันตกรรม การสื่อสาร โทรคมนาคม คอมพิวเตอร เครื่องคิดเลข แต่เหนือสิ่งอื่นใด ทองคำกลับได้รับความนิยมอย่างสูงสุดในวงการเครื่องประดับทองคำเป็นโลหะมีค่า ชนิดเดียวที่มีคุณสมบัติพื้นฐาน4 ประการซึ่งทำให้ทองคำโดดเด่น และเป็นที่ต้องการเหนือบรรดาโลหะมีค่าทุกชนิดในโลก กล่าวคือ...........
1.ความ งดงามมันวาว(Lustre) สีสันที่สวยงามตามธรรมชาติผสานกับความมันวาวก่อให้เกิดความงามอันเป็นอมตะ กับทองคำสามารถเปลี่ยนเฉดสีทองโดยการนำทองคำไปผสมกับโลหะมีค่าอื่นๆ ช่วยเพิ่มความงดงามให้แก่ทองคำได้อีกทางหนึ่ง
2.ความหายาก (Rarity)....กว่าจะได้ทองคำมาสักหนึ่งออนซ์(31.167gram)ต้องถลุงก้อนแร่ที่ มีทองคำอยู่เป็นจำนวนหลายตันจึงทำให้มีค่าใช้จ่ายที่สูงเป็นเหตุให้ทองคำมี ราคาแพงตามต้นทุนในการผลิต
3.ความคงทน(Durable) ทองคำไม่ขึ้นสนิม ไม่หมอง และไม่ผุกร่อน ดังตัวอย่างเช่นมหาสมบัติของฟาโรห์ ตุตังคาเมนซึ่งสิ้นพระชนม์เมื่อปี 1350 ก่อนคริสตกาล นับถึงปัจจุบันเวลาล่วงเลยมานานกว่า 3,000 ปี แต่ทรัพย์สมบัติที่เป็นเครื่องประดับทองคำจำนวนมหาศาลที่ฝังไว้ในปิรามิดยัง คงเปล่งประกายเจิดจ้า สร้างความตื่นตาตื่นใจแก่ผู้ที่พบเห็นได้ไม่น้อยทีเดียว
4.การนำไปใช้ประโยชน์ (Reuseable)ทองคำเหมาะสมที่สุดต่อการนำมาทำเป็นเครื่องประดับเพราะมีความ เหนียวและอ่อนนิ่มสามารถนำมาทำขึ้นรูปได้ง่ายอีกทั้งยังสามารถนำกลับมาใช้ ใหม่โดยการทำให้บริสุทธิ์ (Purified) ได้อีกนับครั้งไม่ถ้วน
ขอขอบคุณ ศูนย์ข้อมูลและประชาสัมพันธ์
สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ