การขว้างลูกบอลเข้ากำแพง ยิ่งขว...
ReadyPlanet.com


การขว้างลูกบอลเข้ากำแพง ยิ่งขว้างแรงก็ยิ่งกระเด้งกลับมาแรง


 มีหลายเรื่องที่โลกดูไม่ยุติธรรม, มีมากมายที่ไม่เป็นดังใจดังหวัง, มีหลายคนที่ยากจะเข้าใจความคิดของเขา, เหตุการณ์ที่ไม่ควรจะเกิดก็เกิด และความพยายามของเรามีไม่น้อยกลับให้ผลตรงกันข้าม เมื่อเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น การพร่ำบ่น ก่นด่า อาจเกิดขึ้นมา ทว่ามันก็ไม่ได้ดีขึ้น..

 
การขว้างลูกบอลเข้ากำแพง ยิ่งขว้างแรงก็ยิ่งกระเด้งกลับมาแรง เสมือนการที่เราพ่นคำร้าย บ่นด่าออกไป ยิ่งสะท้อนภาวะจิตใจลึก ๆ ให้แย่ลง หลายครั้งเราพยายามที่จะใช้คำพูดประชด สาดใส่ หรือหวังพยายามกรีดแทงบางคน สิ่งที่ได้กลับมาอาจเป็นคำพูดที่แรง ๆ เช่นกัน แม้จะทำให้อีกฝ่ายเสียใจไปได้ แต่ผลลัพธ์ที่ดีก็ไม่เกิดขึ้น และการเสียความรู้สึกก็ก่อเกิดภายใต้จิตใจทั้งสองฝ่าย เผลอ ๆ เป็นผู้พูดเองที่เสียใจมากกว่า
 
หลายคนก็เข้าใจดีว่า เรื่องแย่ ๆ หลายเรื่องมันเกิดจากปัจจัยที่เราควบคุมไม่ได้ การจะพูดอะไรไปมันล้วนไร้ประโยชน์ นิ่ง เฉย อยู่แต่กับตัวเองไปเสียดีกว่า เช่นนี้ก็ดี…
 
แต่ก็มีไม่น้อยที่กลายเป็นว่า ปัจจัยโดยอย่างยิ่งเมื่อเป็นคนอื่น พอเราไม่พูด กลับยิ่งมักง่าย, มองข้าม, หรือเข้าใจไปเองว่า ไม่จำเป็นต้องเกรงใจ บางทีก็นึกว่าที่เราไม่พูดนั้น มันดีแล้ว เราชอบแล้ว…ดังนั้นแม้การไม่บ่น ไม่ด่า ไม่พูด เป็นสิ่งที่ดีกว่าในหลายสถานการณ์ แต่ก็ใช่ทั้งหมด การไม่พูดเลยบางทีก็แย่ลง, สร้างความเข้าใจผิด, ไม่มีอะไรดีขึ้นเช่นกัน ทดลองเล่นสล็อต
 
ซึ่งการไม่พูด เก็บไว้ แล้วขจัดออกไปจากใจได้เองก็ถือว่าจัดการภาวะอารมณ์ได้ดีเยี่ยม ทว่าแม้ไม่ถึงกับรกจิตใจแต่นานไปมันก็เป็นตะกอน..
 
การบ่นบ้าง ติงบ้าง เตือนบ้าง บอกบ้าง น้อย ๆ จึงเป็นเหมือนยาระบาย นอกจากของเสียจะพ้นไป ยังทำให้เราโล่ง และเบา เหมือนยกภาระบางอย่างออกไป แน่นอนถ้ามากไปคงเป็นยาถ่ายที่ไม่ใช่ระบายแค่ของเสีย ของดีก็เสียไปด้วยและปวดทรมาน ทีนี้ก็อยู่ที่ว่า มากน้อยแค่ไหนจะพอดี ที่ถ้าควบคุมให้ได้ น้อย ๆ เป็นยาระบาย ได้แน่นอน 😁เราอยากพัฒนาตนเอง… แต่เลือกดูซีรีส์มากกว่าอ่านหนังสือ
เราอยากรักษาสุขภาพ… แต่เลือกไปคาเฟ่มากกว่าไปออกกำลังกาย
เราอยากหาอาชีพเสริม… แต่เลือกเลื่อนโทรศัพท์ไปเรื่อยเปื่อยมากกว่าศึกษาบางสิ่ง
เราอยากเก่งภาษา… แต่เลือกอ่านข่าวดาราเลิกกัน
…ก็เพราะเราชอบทำสิ่งเหล่านั้นมากกว่าแค่นั้นเอง…
 
ก่อนที่จะเขียนบทความนี้ คือตอนกำลังเปิด to do list รายการที่ต้องทำของตัวเองว่าต้องทำอะไรบ้าง การเขียนบทความก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่พอเทียบกับรายการอื่น ๆ เป็นอะไรที่ไม่เร่งด่วน (Not Urgent) มีงานที่ย่อมต้องมาก่อนและสำคัญกว่า ทว่ารู้สึกยังไม่อยากลุกไปทำเอาเสียเลย อยากเขียนให้จบสักบทความหนึ่งก่อน (มีเขียนค้างไว้เพียบ) ชั่วขณะเดียวกันนี้เองก็บันดาลให้เกิดบทความนี้ขึ้นมาว่า “เพราะสิ่งที่ชอบทำ บางทีมันไม่ใช่ สิ่งที่ต้องทำ” ก็ในเมื่อมีงานที่ควรต้องเคลียให้จบไปก่อน เปรียบการที่ถ้าผมยังไม่เขียนบทความ ก็ไม่มีใครมาด่ามาว่าอะไร ต่อให้เขียนเสร็จก็ใช่ว่าคนจะมารีบอ่าน 😅 แต่ใจก็ดันเรียกร้องให้เลือกทำสิ่งที่ชอบมากกว่าสิ่งที่ต้องทำ เราหลายคนคงเคยพ่ายแพ้ต่อภาวะเช่นนี้….
 
นี่คือสิ่งหนึ่งที่อยากจะเตือนใจ โดยใช้ตัวเองที่กำลังเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีมาชวนให้คิด อันที่จริง ผมก็ตัดสินใจเลือกที่จะลุกไปเตรียมงานที่ต้องทำแล้ว เพียงแต่กลัวลืมเรื่องราวที่คิดได้เรื่องนี้ จึงเลือกมาเขียนก่อน ยังดีที่ “การเตรียมงาน” กับ “เขียนบทความ” ของผมอยู่ใน to do list ทั้งคู่ มันจึงมีโอกาสที่จะสำเร็จทั้ง สิ่งที่ชอบทำ และต้องทำในวันนี้ แต่หลายคนไม่ได้เป็นเช่นนี้ เลือกแค่ไปทำสิ่งที่ไม่จำเป็น ไม่ได้อยู่ในแผน หรือที่จริงไม่เคยวางแผน แค่ชอบทำสิ่งนี้มากกว่าอีกอย่างก็เท่านั้น ไม่ว่ามันจะสบายกว่า สนุกกว่า หรือเหนื่อยน้อยกว่า แต่ผลลัพธ์แท้จริง ๆ มันแย่กว่า โดยอย่างยิ่งเมื่อสิ่งนั้นมันไม่ได้เป็นสาระอันใด..


ผู้ตั้งกระทู้ mii (lelemimi888-at-gmail-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2023-09-21 10:13:12


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.